คำสั่งทางการประกาศแล้วว่าถ้ากวดวิชาสอนเนื้อหาเดียวกับโรงเรียน ต้องออกจากตลาดหุ้น
กระทรวงศึกษาจีนออกคำสั่งช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ “ห้ามกวดวิชาที่สอนเนื้อหาเหมือนหลักสูตรภาคบังคับ เป็นบริษัทแสวงหากำไร” ขณะที่โรงเรียนกวดวิชาซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียนแล้วทั้งหมด ต้องยื่นเอกสารขอจดทะเบียนใหม่เป็น “องค์กรไม่แสวงผลกำไร” แม้ยังดำเนินกิจการได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และในช่วงปิดภาคเรียนได้อีก เรียกได้ว่าตรงกับข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยจะห้ามกวดวิชาเข้าตลาดหุ้นและรับเงินลงทุนจากเอกชน คือถ้าจะทำก็ให้เป็นองค์กรการกุศลไปเลย (non-profit organization) เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับผู้ปกครอง ให้สอดคล้องกับนโยบายที่กำเปลี่ยนแปลงและเรียกร้องให้ครอบครัวจีนมีบุตรเพิ่มขึ้นได้เป็นสองหรือสามคนเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนประชากรในตลาดแรงงาน นอกจากนี้ยังสั่งจำกัดการลงทุนจากต่างประเทศในภาคธุรกิจดังกล่าว ทั้งในรูปแบบการควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ หรือการซื้อเฟรนไชส์ มาตรการดังกล่าวยังเป็นการเพิ่มการให้ความสำคัญกับสุขภาพ การเติบโตให้เหมาะสมกับช่วงวัย และ “การปกป้องสิทธิในการพักผ่อนของเด็ก”
ทางด้านเนื้อหาเหมือนหลักสูตรภาคบังคับชัดเจนว่า วิชาคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ คงโดนแบน แต่วิชาอย่าง ภาษาอังกฤษ หรือกิจกรรมพักผ่อนอย่างดนตรี, ศิลปะ, กีฬา พอจะเลี่ยงบาลีได้ ทั้งนี้การสอนหลักสูตรภาคบังคับเป็นรายได้หลักของหุ้น TAL Education (NYSE: TAL), New Oriental Education (HKG: 9901) และอีกหลายตัวในตลาด คงเลี่ยงผลกระทบไม่ได้ โดยเราคาดว่าคำสั่งแบนคงเริ่มคุยกันในระดับรัฐบาลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพราะราคาหุ้นกลุ่มนี้เริ่มไหลตั้งแต่ช่วงนั้น ซึ่งเป็นลักษณะของหุ้นจีนที่มักมีวงในรู้ก่อนและ action ก่อนเสมอ ณ ปัจจุบัน ตลาดสถาบันกวดวิชาจีน มีมูลค่าสูงถึง 1.2 แสนล้านดอลลาร์ การเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้ ดึงดูดเม็ดเงินเข้าธุรกิจดังกล่าวจำนวนมหาศาล จากทั้งในประเทศและต่างชาติ นโยบายใหม่นี้ กดดันทำให้นักลงทุนเทขายหุ้น Scholar Education Group ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงร่วงลงกว่า 43% ขณะหุ้น New Oriental Education & Technology Group ร่วงลง 41% ในการซื้อขายวันนี้